สิ่งที่ช่วยสร้างนวัตกรรมการทำงาน

1. การเปิดใจ (Openness) ผู้บริหารจะต้องสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้นการเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่หรือความคิดเห็นใหม่ของจากครูและผู้ที่เกี่ยวข้องในลักษณะของการเปิดพื้นที่ทางความคิดที่ไม่มุ่งเน้นการตัดสินถูกหรือผิด แต่จะต้องเป็นพื้นที่ความคิดที่ทุกคนรู้สึกอิสระและไม่มีข้อจำกัดเพื่อให้เกิดการระดมความคิดเห็น(Brainstorming) และร่วมกันกำหนดเป้าประสงค์ในการพัฒนาการปฏิบัติงานของตนและสถานศึกษาที่มุ่งสู่นวัตกรรม (Innovative Goal) 2. การมุ่งมั่นตั้งใจ ( Willingness) ผู้บริหารจะต้องกระตุ้นให้ครูมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุสู่เป้าประสงค์ในการพัฒนาการปฏิบัติงานของครูที่มุ่งสู่นวัตกรรม โดยผู้บริหารจะต้องชี้นำให้ครูวิเคราะห์สถานการณ์และโอกาสในการสร้างนวัตกรรมใหม่ในมุมมองที่หลากหลายมุมมองโดยพิจารณาปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกสถานศึกษาเพื่อวิเคราะห์ความแตกต่างและความเป็นไปได้ในการสร้างนวัตกรรม  3. การกล้าเสี่ยง/กล้าลอง ( Taking Risk) ผู้บริหารจะต้องสนับสนุนให้ครูลองนำวิธีการหรือแนวคิดใหม่ๆ ประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนอย่างต่อเนื่อง ครูสามารถค้นพบวิธีการหรือแนวคิดใหม่ในระหว่างการทดลองใช้ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด จนกระทั่งเกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ว่าวิธีการดังกล่าวใช้แล้วได้ผลจริงจึงจะสามารถเรียกวิธีการหรือแนวคิดใหม่ๆเหล่านั้นได้ว่าเป็นนวัตกรรม ทั้งนี้ผู้บริหารและครูจะต้องร่วมกันวางแผนบริหารความเสี่ยงในการนำนวัตกรรมไปทดลองใช้ ตลอดจนวางมาตรการรองรับในกรณีที่เกิดสถานการณ์นอกเหนือจากแผนการดำเนินงาน 4. การวิจัยและพัฒนา (Research & Development : R&D) เมื่อได้นวัตกรรมใหม่แล้วผู้บริหารจะต้องกระตุ้นให้ครูคิดค้นแนวคิด/วิธีการใหม่ๆ…

Continue Readingสิ่งที่ช่วยสร้างนวัตกรรมการทำงาน

กระบวนการบริหารการพัฒนาเมืองโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเทศไทย

การบริหารการพัฒนาเมืองโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเทศไทย เป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่เมือง อันได้แก่ เทศบาล เมืองพัทยา กรุงเทพมหานคร และองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยแต่ละองค์กรมีอำนาจบริหารและดำเนินการพัฒนาท้องถิ่นตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครซึ่งมีการบริหารท้องถิ่นแบบระดับเดียว (single tier) ได้รับการกระจายอำนาจและสามารถบริหารการพัฒนาเมืองได้กว้างขวางกว่าองค์กรอื่นซึ่งอยู่ในระบบการบริหารท้องถิ่นแบบ 2 ระดับ แม้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละองค์กรสามารถบริหารการพัฒนาท้องถิ่นของตนได้อย่างเป็นอิสระภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทำให้การบริหารการพัฒนาในแต่ละเมืองมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วกระบวนการบริหารการพัฒนาเมืองโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีขั้นตอนหลักๆที่ไม่แตกต่างกัน ทั้งนี้อาจสรุปขั้นตอนหลักในกระบวนการบริหารการพัฒนาเมืองโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของไทยได้เป็น 3 ขั้นตอน คือ การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น การนำแผนพัฒนาท้องถิ่นไปปฏิบัติ การติดตามและประเมินผลแผนพัฒนาท้องถิ่น

Continue Readingกระบวนการบริหารการพัฒนาเมืองโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเทศไทย

การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น

การมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปกครองระบอบประชาธิปไตยซึ่งถือว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย  ในการปกครองและบริหารท้องถิ่นตามระบอบประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะขาดหายไปไม่ได้เช่นเดียวกัน  ทั้งนี้ ในฐานะที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจในการปกครองตนเองของท้องถิ่น  ดังนั้น ในการพัฒนาเมืองโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นเมืองนั้นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของตนอย่างกว้างขวาง ซึ่งหมายรวมถึงการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมในการบริหารท้องถิ่น ดังนี้             6.1 การมีส่วนร่วมทางการเมือง การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในท้องถิ่นเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดการปกครองตนเองของท้องถิ่นอย่างแท้จริง การมีส่วนร่วมทางการเมืองดังกล่าวนี้นอกจากจะหมายถึงการมีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งจะเป็นผู้ใช้อำนาจท้องถิ่นแทนประชาชนแล้ว ยังหมายถึงสิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมืองตามหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม (Participative Democracy) ในลักษณะอื่นๆ อย่างกว้างขวางอีกด้วย อาทิ การเสนอความคิดเห็น การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การถอดถอน การเสนอร่างกฎหมาย การแสดงประชามติ เป็นต้น  ทั้งนี้  หากเมืองใดไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเหมาะสม การพัฒนาเมืองและชนบทโดยกระบวนการบริหารท้องถิ่นก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้…

Continue Readingการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น