ผลตอบแทนกับความเสี่ยง

การลงทุนใดๆ ย่อมมีความเสี่ยงในการลงทุนเสมอ เรามักจะได้ยินเสมอว่า การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงจะให้ผลตอบแทนสูง หรือ High risk high return ทั้งนี้ เพราะโดยธรรมชาติของผู้ลงทุนจะไม่ชอบความเสี่ยง ดังนั้นหากการลงทุนใดที่มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนอื่นโดยที่คุณสมบัติอื่นเหมือนกันทุกประการแล้วการลงทุนนั้นย่อมไม่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน ดังนั้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนอื่นจึงต้องเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนอื่นเพื่อดึงดูดให้นักลงทุนสนใจมาลงทุน ผลตอบแทนที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นนั้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงขึ้นนั้นเอง เรียกว่า “ส่วนชดเชยความเสี่ยง” หรือ “Risk premium” ดังนั้นยิ่งการลงทุนมีความเสี่ยงมากเท่าไร ย่อมต้องมีส่วนชดเชยความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงยิ่งต้องให้ผลตอบแทนสูงนั่นเอง

Continue Readingผลตอบแทนกับความเสี่ยง

โครงสร้างตลาดการเงินไทย พ.ศ.2566

เดิมเมื่อกล่าวถึงการออมการลงทุนของภาคครัวเรือนส่วนมากจะนึกถึงธนาคารพาณิชย์ เช่นเดียวกับภาคธุรกิจเมื่อต้องการเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการก็จะนึกถึงเงินกู้ประเภทต่างๆจากธนาคารพาณิชย์ แต่ในปัจจุบันสัดส่วนของเงินทุนในภาคธนาคารลดลงเหลือเพียงประมาณหนึ่งในสามเท่านั้น โดยในปี พ.ศ.2566 มีสินเชื่อจากธนาคารทั้งหมดรวมประมาณ 18.3 ล้านล้านบาท ในขณะที่มูลค่ารวมของตลาดตราสารทุนอยู่ที่ประมาณ 17.0 ล้านล้านบาท และตลาดตราสารหนี้มีมูลค่าคงค้างประมาณ 16.5 ล้านล้านบาท จะเห็นได้ว่าระบบธนาคารยังคงมีบทบาทมากที่สุดในโครงสร้างตลาดการเงินไทย แต่เริ่มที่จะมีขนาดใกล้เคียงกับตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ และแนวโน้มในอนาคตธนาคารจะมีบทบาทลดลง ในขณะที่ตลาดตราสารทุน และตลาดตราสารหนี้ยังมีแนวโน้มจะเติบโตได้อีก เอกสารอ้างอิง สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย. (2567). ตลาดตราสารหนี้ไทย ปี 2023. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2567 จาก:…

Continue Readingโครงสร้างตลาดการเงินไทย พ.ศ.2566

ทำไมความเสี่ยงจากการลงทุนสูงจึงต้องให้ผลตอบแทนสูง

ในยุคก่อนถ้าคนมีเงินเหลือเก็บออมมักจะนำไปฝากธนาคารเนื่องจากไม่มีทางเลือกมากนักในการเก็บออมเงินที่มีอยู่ คนจึงคุ้นเคยกับการเก็บออมเงินโดยฝากธนาคารซึ่งเป็นการลงทุนแบบพื้นฐานที่สุด ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนต่ำและมีความเสี่ยงต่ำด้วยเช่นกัน ในยุคก่อนถือว่าการฝากเงินกับธนาคารไม่มีความเสี่ยง เพราะอย่างไรเสียก็ได้รับการคุ้มครองจากภาครัฐ แต่เมื่อเกิดวิกฤตสถาบันการเงินในปี พ.ศ.2540 จนมีสถาบันการเงินจำนวนมากต้องปิดกิจการลง ทำให้ภาครัฐมองหาแนวทางในการช่วยลดภาระในการช่วยเหลือคุ้มครองเงินฝากให้แก่ประชาชน จึงมีการจัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝากขึ้นซึ่งทำให้การฝากเงินกับธนาคารได้รับการคุ้มครองในวงเงินจำกัด ซึ่งปัจจุบันสถาบันคุ้มครองเงินฝากได้คุ้มครองเงินฝากที่ฝากธนาคารไว้บัญชีละ 1,000,000 บาท ทำให้ผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารหลักหลายล้านบาทเริ่มรู้สึกว่าการฝากเงินกับธนาคารไม่ปลอดภัยเหมือนเดิม นั่นคือการฝากเงินกับธนาคารก็มีความเสี่ยงเกิดขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามถือว่าการฝากเงินกับธนาคารมีความเสี่ยงต่ำมาก ดังนั้นอัตราผลตอบแทนจากการฝากเงินก็ต่ำด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้ฝากเงินกลัวความเสี่ยงจึงยอมฝากเงินกับธนาคารแล้วยอมรับอัตราผลตอบแทนที่ต่ำโดยรู้สึกมั่นใจว่าเงินที่ฝากไว้ปลอดภัย แต่สำหรับคนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารก็จะมองหาช่องทางอื่นในการลงทุน เช่น กองทุนรวม หุ้นกู้  หุ้นสามัญ และอนุพันธ์ เป็นต้น สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นก็จะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนมากขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง และสินทรัพย์ที่ยิ่งมีความเสี่ยงมากเท่าไรก็ต้องให้ผลตอบแทนมากยิ่งขึ้นเพื่อจูงใจให้ผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและมีความกล้าเสี่ยงมาลงทุน เช่น หุ้นกู้มีความเสี่ยงมากกว่าเงินฝากธนาคาร หุ้นกู้ต้องให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคาร…

Continue Readingทำไมความเสี่ยงจากการลงทุนสูงจึงต้องให้ผลตอบแทนสูง