ทำความรู้จักกับตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนาม (2)

รองศาสตราจารย์ ดร.กัลยานี ภาคอัต

จากบทความก่อนได้นำเสนอเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนาม  ประกอบด้วยสามตลาดด้วยกัน โดยได้นำเสนอตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Stock Exchange : HOSE) หรือตลาด HOSE แล้ว  สำหรับบทความนี้จะนำเสนอรายละเอียดของตลาดที่เหลืออีก 2 ตลาด คือ ตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (Hanoi Stock Exchange : HNX) และตลาด UPCoM หรือ Unlisted Public Company Limited

ตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (Hanoi Stock Exchange : HNX)

ตลาดหลักทรัพย์ฮานอยมีชื่อเดิมว่า Hanoi Securities Trading Center (Hanoi STC) ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) สถานที่จัดตั้งตลาดอยู่ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม  ตลาด HNX นับได้ว่าเป็นศูนย์กลางซื้อขายหลักทรัพย์แห่งที่สองของประเทศเวียดนาม และอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลังเวียดนาม ปัจจุบันตลาด HNX มีบริษัทจดทะบียนจำนวน 300 กว่าหลักทรัพย์

ตลาด HNX เปิดทำการซื้อขายตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ช่วงเวลาซื้อขายแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 เวลา 09:00 – 11.30 และช่วงที่ 2 เวลา 13:00 – 15.00 น. ช่วงพักการซื้อขายเวลา 11.30 – 13.00 น. ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันกับตตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE) สกุลเงินที่ใช้ในการซื้อขายเป็นสกุลเงินดอง (Vietnamese Dong: VND) หน่วยการซื้อขาย 100 หุ้น ประเภทคำสั่งซื้อขายคือ  Market, Limit, GTD และ Conditional Order  วันชำระราคาหลักทรัพย์ T + 2  การกำหนดราคาเสนอซื้อขายหลักทรัพย์สูงสุด (Ceiling) และต่ำสุด (Floor) ในแต่ละวันเปลี่ยนแปลงได้ไม่เกิน 10% ของราคาปิดในวันทำการก่อนหน้า  และในกรณีหลักทรัพย์ใหม่ที่ซื้อขายวันแรกกำหนดให้ราคาเปลี่ยนแปลงได้ไม่เกิน 30% ของราคา IPO 

ตลาด Unlisted Public Company Limited (UPCoM)

ตลาด UPCoM ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บริษัทที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สามารถเข้าร่วมในตลาดหลักทรัพย์ได้  เมื่อบริษัทในตลาด UPCoM มีความพร้อมก็สามารถนำเข้าไปจดทะเบียนในตลาด HOSE หรือตลาด HNX ได้  นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาด UPCoM จะได้รับการคุ้มครองตามยกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ  ปัจจุบันตลาด UPCoM มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดจำนวน 857 หลักทรัพย์ (ข้อมูล ณ 16 ธ.ค. 2565)  ซึ่งตลาด UPCoM จะช่วยบริษัทที่สนใจแต่ยังไม่มีคุณสมบัติเข้าจดทะเบียนทั้งสองตลาดได้ ซึ่งทำให้ทั้งบริษัทมีโอกาสในการระดมทุนได้ และนักลงทุนเองก็ได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลรายละเอียดของบริษัทเหล่านั้นก่อนที่จะเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป จากบทความทั้งสองตอนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่กำลังสนใจมองหาช่องทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ อาจจะลองเปิดใจมองตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกที่กำลังจับตามองมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว  อย่างไรก็ตาม คงจบท้ายด้วยการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงควรศึกษารายละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุน…