นอกจากประเด็นทางหลักการที่แตกต่างกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากคือ ผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงในทางปฏิบัติ
เป็นที่น่าสังเกตว่า นโยบายที่ใช้งบประมาณเพื่อ “ผู้ด้อยโอกาส” จำนวนมากเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ได้เปรียบ ยกตัวอย่างเช่น
- โครงการจำนำข้าว กับโครงการประกันราคาข้าว ในรัฐบาลนี้ โครงการที่เรียกว่า “ประชารัฐ” ในทางปฏิบัติแล้วกลับพบว่าเป็นการนำเงินไปอุดหนุนผู้ที่ได้เปรียบโดยผ่านมือ “ผู้ด้อยโอกาส”
- การอุดหนุนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ผูกการรับและใช้จ่ายเงินที่เฉพาะเจาะจง
- การอุดหนุนการผลิตด้วยการให้เงินชดเชยส่วนที่ใช้จ่ายหรือส่วนที่ขาด
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทันทีคือ ธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่มจะเป็นผู้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการใช้จ่ายหรือการสนับสนุนดังกล่าวทั้งในรูปแบบของการซื้อขายสินค้าและบริการ ในรูปแบบของการรักษาการเอารัดเอาเปรียบต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเรียกร้องส่วนแบ่งอันควรได้โดยตรงจากธุรกิจ
เงินที่รัฐบาลนำไปแจก ไหลกลับไปสู่กลุ่มทุนที่เชื่อมโยงกับรัฐบาล
เงินที่รัฐบาลนำไปอุดหนุนส่วนต่างหรือส่วนที่ขาด ทำให้พ่อค้านักธุรกิจสามารถตั้งราคาสูงกินส่วนต่างแพงโดยไม่ต้องปรับปรุงคุณภาพบริการหรือราคา
ทั้งหมดนี้คือการทำให้ผู้ที่ได้เปรียบอยู่แล้วได้รับประโยชน์ เป็นการนำภาษีของประชาชนทุกคนในประเทศไปอุดหนุนธุรกิจหรือกลุ่มคนบางกลุ่มในนามของการให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส