ผลการประเมินระบบ
- ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการเลือกแผนประกันชีวิต ดังแสดงปรากฏในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 ผลการประเมินคุณภาพระบบของผู้ใช้โปรแกรม
รายละเอียด | ค่าเฉลี่ย | ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน |
1. ระบบสามารถติดต่อกับผู้ใช้งาน | 4.46 | 0.59 |
2. ความถูกต้องของระบบ | 4.30 | 0.71 |
3. ด้านการประมวลผล | 4.20 | 0.62 |
4. ด้านการรักษาความปลอดภัยของระบบ | 4.35 | 0.55 |
5. Graphic User Interface | 4.33 | 0.70 |
ภาพรวมของระบบ | 4.35 | 0.63 |
จากตารางที่ 1 ผลของแบบประเมินความพึงพอใจของระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการเลือกแผนประกันโดยผูhใชhงานระบบ ผลการตอบสนองที่ไดhแสดงใหhเห็นวjา เมื่อนำค่าเฉลี่ยของแต่ละหัวข้อมาประมวลผลข้อมูลทางสถิติเพื่อหาคjาเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) จะพบว่าค่าเฉลี่ยที่ได อยู่ที่ 4.35 และค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานท่ากับ 0.63 ดังนั้นระบบที่ได้พัฒนาขึ้น มีความพึงพอใจของระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการเลือกแผนประกันชีวิต อยู่ในระดับดี
ผลการประเมินระบบด้านต่างๆ ของผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านมีความรู้ทางด้านประกัน จํานวน 5 ท่านเพื่อประเมินหาประสิทธิภาพของระบบที่ได้พัฒนาขึ้น แสดงไว้ดังตารางที่ 2: ผลการประเมินคุณภาพระบบด้านการทํางานตามหน้าที่ของระบบ
ตารางที่ 2 ผลการประเมินคุณภาพระบบของผู้เชี่ยวชาญ
หัวข้อ | ค่าเฉลี่ย | ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน | ความหมาย |
1.ความสามารถของระบบในการแสดงข้อมูลตามเงื่อนไขที่ระบุ | 4.50 | 0.50 | ดีมาก |
2.ความสามารถในการเพิ่มข้อมูลลงฐานข้อมูล | 4.70 | 0.57 | ดีมาก |
3. ความสามารถในการลบข้อมูล | 4.50 | 0.50 | ดีมาก |
4.ความสามารถในการปรับปรุงข้อมูล | 4.50 | 0.50 | ดีมาก |
5.ความสามารถในการสนับสนุนการตัดสินใจเลือกแผนประกันชีวิต | 4.25 | 0.50 | ดี |
6.ความสามารถในการแสดงข้อมูลผู้ใช้งานระบบ | 4.25 | 0.50 | ดี |
รวม | 4.45 | 0.51 | ดีมาก |
จากตารางที่ 2 ผลการประเมินระบบด้านความสามารถในการทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ จะเห็นว่าเมื่อนำค่าเฉลี่ยของแต่ละหัวข้อมาผ่านกระบวนการทางสถิติเพื่อหาค่าเฉลี่ยและค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน จะพบว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.45 และมีค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.51 ส่งผลให้เห็นว่าประสิทธิภาพในด้านความสามารถทํางานตามความต้องการของผู้ใช้งานอยู่ในระดับดีมาก
สรุปและอภิปรายผล
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตที่พัฒนาขึ้น โดยใช้เทคนิคแบบ Rule Based มาช่วยในการพัฒนาระบบ ซึ่งผลการพัฒนาระบบออกมาอยู่ในระดับ สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริง
เอกสารอ้างอิง
กิตติพงษ์ ปาลี. (2550). ความหมายของการทำประกันชีวิต. สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง.
กาญจนา ศรีหมอก. (2549). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกทำประกันชีวิตของพนักงานธนาคารในจังหวัดชัยนาท. การค้นคว้าแบบอิสระ. (เศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นพินดา หาญจริง. (2549). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตของผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน ในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์เศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต. (เศรษฐศาสตร์). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
บุษรา อึ๊งภากรณ์. (2557). เบี้ยประกันชีวิตรับรวมของบริษัทประกันชีวิตทั้ง 24 บริษัทในประเทศ-ไทย ตลอดทั้งปี 2556. สมาคมประกันชีวิตไทย.
เพ็ญศรี วรรณสุข. (2547). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจทำประกันชีวิตของลูกค้า บริษัทเนชั่นไวด์ประกันชีวิต จำกัด ในเขตกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์ บธ.บ. การจัดการ. สถาบันราชภัฏพระนคร.
โอภาส เอี่ยมสิ ริวงศ์. (2548). การวิเคราะห์และออกแบบระบบ (System Analysis and Design) ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชัน. 413 หน้า.
อมตา สมานโสร์, (2556). ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเลือกแผนประกัน. ปริญญานิพนธ์ วท.ม. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
Bidgoil, Hossein. (1989). Decision Support System: Principles and Practice, West Publishing Company.
Turban,Aronson. (2001). Decision Support Systems and Intelligent Systems (7th Edition). Publisher Prentice-Hall, Inc. Upper Saddle River.