เนื่องจากการบูรณาการในองค์การเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างบุคคล กลุ่ม ทีม หน่วยงาน เพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่างร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ การบูรณาการในองค์การจึงมีบทบาทสำคัญใน การบริหารองค์การ ดังนี้
- การบูรณาการในองค์การทำให้องค์การบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเป้าหมายระดับองค์การที่ควรมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหลายฝ่าย ตัวอย่างเช่น เป้าหมายด้านทรัพยากรบุคคลขององค์การจำเป็นต้องมีการบูรณาการงานระหว่างฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลและฝ่ายสรรหาทรัพยากรบุคคล หากฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลทราบว่าฝ่ายสรรหาทรัพยากรบุคคลจะสรรหาบุคลากรในแต่ละปีจำนวนเท่าใด ก็จะสามารถวางแผนการพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้อย่างถูกต้อง เป็นต้น นอกจากนี้ ในแต่ละส่วนงานมีการกำหนดเป้าหมาย การทำงานย่อยๆลงไปอีก ดังนั้น จึงควรบูรณาการเป้าหมายเพื่อการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายภาพรวมและเป้าหมายย่อย เช่น ฝ่ายขายมีเป้าหมาย คือ การเพิ่มยอดขาย ในขณะที่ฝ่ายบริการมีเป้าหมาย คือ การเพิ่มคุณภาพบริการ ดังนั้น ต้องบูรณาการงานกันเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายทั้งสองด้าน ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่มีการบูรณาการกันฝ่ายขายอาจดำเนินการโดยมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายเพียงอย่างเดียว โดยไม่ค่อยให้ ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพการบริการ เป็นต้น
2. การบูรณาการในองค์การทำให้องค์การมีการปรับปรุง การปฏิบัติงาน เนื่องจากการบูรณาการทำให้ทราบปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของแต่ละฝ่าย จึงสามารถปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ได้ผลการปฏิบัติงานที่ดีขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น หากฝ่ายพัฒนาทราบว่าบุคลากรที่ฝ่ายสรรหาได้สรรหามาส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในตำแหน่งงานที่สรรหามา แต่ขาดความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลจะได้จัดอบรมความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่บุคลากรดังกล่าว เป็นต้น
3. การบูรณาการในองค์การทำให้องค์การมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบูรณาการช่วยลดต้นทุนทั้งในเชิงเวลาและค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเช่น การเสนอของบประมาณประจำปี หากหน่วยงานด้านงบประมาณและหน่วยงานด้านการวางแผนบูรณาการกัน หน่วยงานภายในองค์การที่ประสงค์เสนอของบประมาณในการจัดทำโครงการต่างๆขององค์การอาจเสนอมาที่หน่วยงานด้านการวางแผนเพียงหน่วยงานเดียวเพื่อให้หน่วยงานด้านการวางแผนพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดทำโครงการ และจัดส่งข้อมูลให้หน่วยงานด้านงบประมาณเสนอของบประมาณต่อไป แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่มีการบูรณาการกัน หน่วยงานภายในองค์การอาจต้องเสนอโครงการมาที่หน่วยงานทั้ง 2 หน่วยงาน เพื่อพิจารณาก่อนเสนอของประมาณ เป็นต้น
4. การบูรณาการในองค์การทำให้องค์การลดการทำงานซ้ำซ้อน เนื่องจากแต่ละฝ่ายได้ มีโอกาสรับรู้งานของฝ่ายอื่นว่าใครมีหน้าที่รับผิดชอบอะไร อย่างไร ตัวอย่างเช่น การบูรณาการในรูปคณะกรรมการต่างๆ เป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายต่างๆที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบแตกต่างกันได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค ข้อจำกัดในการดำเนินงาน และร่วมกันหาแนวทางดำเนินงานและการแก้ไขปัญหา อุปสรรค ลดโอกาสเกิดการทำงานหรือการแก้ไขปัญหาที่ซ้ำซ้อนกัน เป็นต้น
กล่าวโดยสรุปได้ว่า การบริหารองค์การโดยเฉพาะองค์การภาครัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่ มีความซับซ้อน มีหน่วยงานย่อยจำนวนมากโดยแต่ละหน่วยงานภายในองค์การต่างรับผิดชอบงานตามหน้าที่ของตนเอง การบูรณาการในองค์การจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่ง การบูรณาการในองค์การจะทำให้บุคลากรในองค์การมี ความสามัคคี ลดความขัดแย้ง เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน สร้างทีมงานที่มีประสิทธิผล อันเอื้อประโยชน์ต่อองค์การใน การดำเนินงานได้บรรลุเป้าหมาย มีการปรับปรุงการปฏิบัติงาน การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และลดการทำงานซ้ำซ้อน