Fx Option (Foreign Exchange Option) เป็นเครื่องมือหนึ่งในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เหมาะสำหรับผู้ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก เพราะ Fx Option ถือเป็นการประกันค่าเงิน โดยผู้ซื้อ Fx Option มีสิทธิที่จะซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศ ณ เวลาในอนาคต ตามสกุลเงิน จำนวนเงิน และอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญากับธนาคาร ซึ่งเรียกว่า อัตราใช้สิทธิ (Strike Rate) หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “การล็อกเรท” กล่าวคือล็อกเรทที่จะซื้อหรือจะขายตามที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ โดยผู้ซื้อ options ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าประกันความเสี่ยง (Option Premium) ให้กับธนาคาร ณ วันทำสัญญา ซึ่งทำให้ผู้ซื้อoptions อาจไม่จำเป็นต้องได้รับวงเงินในการทำธุรกรรมจากธนาคารและไม่ต้องวางหลักประกันก่อนทำธุรกรรม ค่าธรรมเนียมนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อัตราใช้สิทธิ อายุของสัญญา ความผันผวนของค่าเงิน เป็นต้น นอกจากนี้ ธนาคารอาจกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำตามแต่ละสกุลเงิน เช่น กรณี USD จำนวนขั้นต่ำคือ USD 100,000 เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ซื้อ Fx Option ต้องมีธุรกรรมรองรับ อยู่ภายใต้ระเบียบควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ต้องไม่ใช่ธุรกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาท และสามารถแสดงเอกสารต่อธนาคาร ณ วันที่ทำสัญญา เช่น สัญญาซื้อขายสินค้าหรือบริการ ใบกำกับสินค้า Letter of Credit: L/C ทั้งนี้ยกเว้นกรณีที่มีการขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษ
Fx Option แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
- Call Options คือให้สิทธิที่จะซื้อเงินตราต่างประเทศในอนาคต จึงเหมาะสำหรับผู้นำเข้า (Importer)
- Put Options คือสิทธิที่จะขายเงินตราต่างประเทศในอนาคต จึงเหมาะสำหรับผู้ส่งออก (Exporter)
การจะใช้สิทธิที่จะซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศตามสัญญาที่ทำกันไว้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับอัตราใช้สิทธิเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนในตลาด ณ เวลาที่จะใช้สิทธิ
ระยะเวลาในการใช้สิทธิมี 2 รูปแบบหลัก คือ
- American Options หมายถึง ผู้ซื้อ options สามารถใช้สิทธิในเวลาใดก็ได้ก่อนวันหมดอายุสัญญา (Expiration date)
- European Options หมายถึง ผู้ซื้อ options สามารถใช้สิทธิ ณ วันสุดท้ายของอายุสัญญาเท่านั้น