รองศาสตราจารย์ ดร.กัลยานี ภาคอัต
กลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือการลงทุนแบบซื้อหุ้นสะสม เป็นรูปแบบการลงทุนประเภทหนึ่ง โดยเน้นการลงทุนที่มีระเบียบวินัยในลักษณะการลงทุนแบบสะสม หากเปรียบได้กับการฝากเงินในลักษณะสะสมคือ การฝากเงินในบัญชีธนาคารทุกๆ เดือน เป็นจำนวนเท่าๆ กัน การลงทุนในรูปแบบของ DCA มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันคือ การซื้อหุ้นเดิมในจำนวนเงินเท่าๆ กันทุกๆ เดือน (ต้นเดือนหรือปลายเดือน) โดยไม่คำนึงถึงราคาหุ้นในขณะนั้น ซึ่งรูปแบบการลงทุนแบบ DCA ช่วยกำจัดเรื่องของอารมณ์เมื่อราคาหุ้นขึ้นหรือลงออกไป
ผู้ที่สนใจการลงทุนแบบ DCA สามารถใช้บริการกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์หลายแหล่งที่ให้บริการ โดยผู้ลงทุนจะต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ และให้ความยินยอมหักเงินจากบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ เพื่อนำไปลงทุนใน “หุ้น” ที่ได้คัดเลือกอาจจะเป็น 1 หุ้น หรือมากกว่าหนึ่งหุ้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินและข้อตกลงเงื่อนไขกับบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งการลงทุนทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับหุ้นนั้นที่มีราคาต้นทุนเฉลี่ยขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบ DCA จะสร้างผลตอบแทนมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการเลือกหุ้น ซึ่งการพิจารณาจากปัจจัยหนึ่งคือ ผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นสามารถเติบโตได้มากเพียงใด ถ้าการเติบโตที่สูงจะทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ การได้รับสิทธิจากผลตอบแทนอื่นในอนาคต เช่น เงินปันผล เมื่อผู้ลงทุนสะสมหุ้นไว้จำนวนมากขึ้นจะทำให้เงินปันผลที่จะได้รับมีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การลงทุนแบบ DCA มีข้อดี 3 ประการคือ 1) การใช้เงินทุนเริ่มต้นในจำนวนที่น้อย โดยผู้ลงทุนหักเงินจากเงินเดือนที่จัดสรรไว้สำหรับการออม และถ้าผู้ลงทุนนำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงทุนแบบ DCA จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคาร 2) การลงทุนที่ปราศจากการใช้อารมณ์ เมื่อผู้ลงทุนได้ตัดสินใจเลือกหุ้นแล้ว การซื้อหุ้นสะสมจะดำเนินการอัตโนมัติทุกๆ เดือน โดยที่ผู้ลงทุนไม่ต้องติดตามข่าวหรือราคาหุ้น ซึ่งจะทำให้ปราศจากอารมณ์ที่คล้อยตามไปกับภาวะของราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะนั้น และ 3) ผลตอบแทนที่ได้รับในอนาคต กรณีที่ผู้ลงทุนเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี หุ้นนั้นย่อมมีผลการดำเนินงานที่เติบโตดีในอนาคต ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่สูงในอนาคตเช่นกัน