เมื่อแนวคิดโซ่อุปทานสีขาวถูกเสนอขึ้น หลายคนอาจตั้งคำถามว่า “แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าองค์กรหนึ่ง ๆ มีการจัดการโซ่อุปทานสีขาวจริงหรือไม่?” การตอบคำถามนี้จำเป็นต้องอาศัย เครื่องมือวัด ที่มีความน่าเชื่อถือทางวิชาการ เพื่อให้สามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบได้อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่การตีความเชิงนามธรรม
จากแนวคิดสู่แบบสอบถามที่ตรวจสอบได้
นักวิจัยได้พัฒนาแบบสอบถามจำนวน 70 ข้อ ครอบคลุม 16 ตัวแปรแฝง และตัวแปรสังเกตอีกเกือบ 50 ตัว เพื่อใช้เป็นกรอบในการวัดโซ่อุปทานสีขาวจริงในอุตสาหกรรมอาหาร แบบสอบถามนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นแบบลอย ๆ แต่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านซัพพลายเชนและความยั่งยืน โดยใช้เกณฑ์ IOC (Index of Item-Objective Congruence) เพื่อยืนยันความตรงของเนื้อหา
การจัดกลุ่มคำถามตาม “สามเสาหลัก”
1. สิ่งแวดล้อม (Environment)
คำถามกลุ่มนี้มุ่งเน้นไปที่การลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่อุปทาน เช่น
- การใช้พลังงานหมุนเวียนแทนพลังงานฟอสซิล
- การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งและกระบวนการผลิต
- การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้
- การจัดการของเสียและน้ำเสียให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างเช่น “องค์กรของท่านมีการกำหนดเป้าหมายด้านการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมและติดตามผลหรือไม่”
2. สังคม (Social Responsibility)
ประเด็นในกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างความเป็นธรรมและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น
- การดูแลสิทธิแรงงาน ค่าจ้างที่เป็นธรรม และสวัสดิการที่เหมาะสม
- การส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยหรือผู้ผลิตท้องถิ่นให้มีโอกาสเข้าถึงตลาด
- การสนับสนุนและพัฒนาชุมชนรอบข้างที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
- การรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าแก่ผู้บริโภค
ตัวอย่างเช่น “บริษัทมีมาตรการป้องกันการใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับในห่วงโซ่อุปทานหรือไม่”
3. จริยธรรม (Ethics)
กลุ่มนี้มุ่งไปที่การดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและซื่อสัตย์ เช่น
- การเลือกคู่ค้าโดยยึดหลักความถูกต้องและมาตรฐานสากล
- การเปิดเผยข้อมูลการจัดหาวัตถุดิบและการผลิตต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- การต่อต้านการทุจริตและการใช้ช่องทางที่ไม่โปร่งใสในการดำเนินงาน
- ความซื่อสัตย์ในการสื่อสารทางการตลาดกับผู้บริโภค
ตัวอย่างเช่น “องค์กรของท่านมีการตรวจสอบคู่ค้าทางธุรกิจในมิติด้านจริยธรรมก่อนทำสัญญาหรือไม่”
การทดสอบความน่าเชื่อถือ
เพื่อให้มั่นใจว่าแบบสอบถามนี้สามารถใช้ได้จริง จึงมีการทดลองกับผู้บริหารในอุตสาหกรรมอาหารไทยจำนวน 30 คน ผลที่ได้คือค่า Cronbach’s Alpha เท่ากับ 0.966 ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ที่ 0.70 อย่างมาก ตัวเลขนี้สะท้อนว่า เครื่องมือวัดนี้มีความน่าเชื่อถือสูงและสามารถใช้ตรวจสอบโซ่อุปทานสีขาวได้จริง
ความหมายของการจัดกลุ่ม
การแบ่งกลุ่มแบบสอบถามตามสามเสาหลักนี้ทำให้การวัดไม่เพียงเป็นการเช็กว่าบริษัท “ทำหรือไม่ทำ” แต่ยังช่วยสะท้อนมิติที่ซับซ้อนของความยั่งยืน เช่น บริษัทอาจทำได้ดีด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังอ่อนแอด้านจริยธรรม การประเมินจึงช่วยชี้ให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กร เพื่อการปรับปรุงอย่างตรงจุด
✨ สรุป
เครื่องมือวัดโซ่อุปทานสีขาวเป็นการแปลงแนวคิดเชิงทฤษฎีให้กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้จริง ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและการทดสอบเชิงสถิติที่น่าเชื่อถือ การแบ่งคำถามตามสามเสาหลัก—สิ่งแวดล้อม สังคม และจริยธรรม—พร้อมประเด็นย่อยสำคัญ ทำให้การประเมินโซ่อุปทานสีขาวมีความละเอียด ครอบคลุม และนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจอาหารไทยในทิศทางที่สมดุล โปร่งใส และยั่งยืน