The Optimal Proportion in Construction Quantity Analysis for Reinforced Concrete Structures of Detached Housing Projects

  • Post author:

อัตราส่วนที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ปริมาณงานก่อสร้างสำหรับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กของโครงการบ้านเดี่ยว

โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก (RC structures) ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างบ้านเดี่ยว อย่างไรก็ตาม การสำรวจปริมาณงาน (quantity surveying หรือ QS) เพื่อหา สัดส่วน การใช้คอนกรีตเสริมเหล็กต่อหน่วยขององค์ประกอบโครงสร้าง เช่น คอนกรีต เหล็กเสริม และไม้แบบ ยังคงมีอยู่อย่างจำกัดและมีการกำหนดที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้เพียงแค่ข้อมูลเชิงตัวเลขที่มีอยู่แล้วเพื่ออธิบายผลทางสถิติในแง่ของช่วงตัวเลขที่เป็นไปได้

วัตถุประสงค์ ของงานวิจัยนี้คือการศึกษาโดยละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมของค่าสัดส่วนต่าง ๆ โดยการประเมินค่าสัดส่วนในการวิเคราะห์ปริมาณงานก่อสร้างสำหรับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กของโครงการบ้านเดี่ยวที่กำลังก่อสร้างอยู่ ดังนั้น ผู้วิจัยจึงทำการรวบรวม ตรวจสอบ และสืบค้นข้อมูล และจำแนกผลลัพธ์ออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้:

  1. สัดส่วนเฉลี่ยของปริมาตรคอนกรีตหยาบต่อพื้นที่ก่อสร้าง เทียบกับปริมาตรทรายอัดแน่นต่อพื้นที่ก่อสร้าง (an average proportion of the lean concrete volume to a construction area versus that of the compacted sand volume to a construction area)
  2. สัดส่วนเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของปริมาตรคานคอนกรีตต่อปริมาตรคอนกรีตรวม เทียบกับปริมาตรพื้นคอนกรีตต่อปริมาตรคอนกรีตรวม (an average percent proportion of the concrete-beam volume to the total concrete volume versus that of the concrete-slab volume to the total concrete volume)
  3. สัดส่วนเฉลี่ยของปริมาตรคอนกรีตต่อพื้นที่ก่อสร้าง (an average proportion of the concrete volume to a construction area)
  4. สัดส่วนเฉลี่ยของน้ำหนักเหล็กเสริมต่อปริมาตรคอนกรีต และน้ำหนักเหล็กเสริมต่อพื้นที่ก่อสร้าง (an average proportion of the reinforced steel weight to the concrete volume and that of the reinforced steel weight to a construction area)
  5. สัดส่วนเฉลี่ยของการใช้ไม้แบบต่อปริมาตรคอนกรีต เทียบกับการใช้ไม้แบบต่อพื้นที่ก่อสร้าง (an average proportion of a formwork usage to the concrete volume versus that of a formwork usage to a construction area)

เป็นที่น่าสังเกตว่า ค่าเฉลี่ยเพียงค่าเดียวไม่เพียงพอต่อการพิจารณาเพิ่มเติม ดังนั้น การใช้ค่าเฉลี่ย ± ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ร่วมกับแผนภาพกล่อง (boxplot) สามารถเพิ่มระดับความน่าเชื่อถือได้ โดยการแสดงการกระจายของข้อมูลผ่านควอร์ไทล์ (quartiles) และช่วงอินเตอร์ควอร์ไทล์ (interquartile range หรือ IQR) ซึ่งครอบคลุมระดับความน่าเชื่อถือมากกว่า 50% ตามทฤษฎีสถิติพื้นฐาน และค่าดังกล่าวสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้นในอนาคต