นักเดินทางไมซ์ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และคาดหวังว่าผู้ประกอบการไมซ์จะสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ทำให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูโลกผ่านการเดินทางแบบ “รักษ์โลก” ปัจจุบันพฤติกรรมของนักเดินทางเปลี่ยนไป โดยหันมาใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน รวมถึงมีส่วนร่วมมากขึ้นในการรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ที่ได้เดินทางไปเยือน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ ในเป้าหมายที่ 8 การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง เป้าหมายที่ 11 การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ และครอบคลุมถึงเป้าหมายที่ 13 การปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเป้าหมายที่ 15 การปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน
ผลสำรวจการเดินทางอย่างยั่งยืนของ Booking.com’s Full 2022 Sustainable Travel Research Report พบว่า ร้อยละ 81 นักเดินทางยืนยันว่าการเดินทางอย่างยั่งยืนมีความสำคัญ ร้อยละ 71 นักเดินทางทั่วโลกต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้นในช่วง 1 ปีต่อจากนี้ ร้อยละ 50 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกการเดินทางอย่างยั่งยืนของนักเดินทางมากขึ้น นอกจากนี้ ผลการสำรวจของ YouGov’s Travel & Tourism Report 2022 สำรวจพฤติกรรมนักเดินทาง Gen Z ที่เติบโตมาพร้อมกับแนวความคิดของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งมีความสนใจการเลือกรูปแบบการการเดินทางที่ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด แม้ว่ารูปแบบนั้นอาจจะไม่ได้สะดวกและรวดเร็วเหมือนเดิม แต่หากผู้ประกอบการสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีได้ตลอดการเดินทาง รวมถึงมีกิจกรรมที่สร้างความหมายเพื่อตอบแทนชุมชนได้แล้ว นักเดินทางกลุ่มนี้ ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นกัน พบว่า ร้อยละ 38 นักเดินทาง Gen Z ทั่วโลกพิจารณาพักในที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในวันหยุดครั้งต่อไป ร้อยละ 34 นักเดินทาง Gen Z ค้นหาข้อเสนอในการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ร้อยละ 21 นักเดินทาง Gen Z ให้ความสำคัญกับการจองเที่ยวบินที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ
ดังนั้น “Slow Route” ถือเป็นแนวทางการส่งเสริมความยั่งยืนที่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว รวมไปถึงผู้คนในพื้นที่ในการลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รูปแบบการเดินทางและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกลายมาเป็นความคุ้นชินในชีวิตประจำวัน โดยเริ่มจากการสนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรกับโลก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อภูมิอากาศโลก (Climate Action) ส่งเสริมให้มีการเข้าถึงระบบคมนาคมขนส่งอย่างปลอดภัยในราคาเท่าเทียม (Sustainable Cities and Communities) และสนับสนุนให้นักเดินทางเข้าถึงที่พักและร้านอาหารท้องถิ่นได้สัมผัสกับวัฒนธรรมในพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการ (Decent Work and Economic Growth) โดยเน้นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้สามารถรักษาความมั่นคงของระบบนิเวศ ตลอดจนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชน เพื่อประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ที่มา https://intelligence.businesseventsthailand.com/en/blog/slow-mice-with-slow-route