แม้ว่าองค์การต่างๆจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนและการควบคุมมากขึ้นในยุคปัญญาประดิษฐ์ ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีในการเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพการปฏิบัติงานขององค์การ แต่การนำไปสู่การปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย ดังจะเห็นได้ว่าหลายองค์การประสบปัญหาการประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้น เพื่อสร้างความสำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ในการวางแผนและการควบคุมองค์การในยุคปัญญาประดิษฐ์ ควรให้ความสำคัญกับประเด็นสำคัญดังนี้
ผู้บริหารองค์การทุกระดับควรให้ความสำคัญและสนใจอย่างจริงจังต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในวางแผนและการควบคุมในยุคปัญญาประดิษฐ์ เนื่องจากผู้บริหารมีบทบาทสำคัญในหลายประการ ได้แก่
1) บทบาทในการสร้างทัศนคติและแรงจูงใจ กล่าวคือ ถ้าผู้บริหารมีทัศนคติที่ดีต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนและการควบคุมองค์การ และเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ พร้อมทั้งผลักดันให้บุคลากรวางแผนและควบคุมโดยเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง จะทำให้บุคลากรในองค์การมีทัศนคติที่ดีและมีแรงจูงใจในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนและการควบคุมองค์การมากขึ้น
2) บทบาทในการสนับสนุนทรัพยากร กล่าวคือ องค์การต่างๆจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรทางการบริหารจำนวนมากในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการวางแผนและการควบคุม เช่น ทรัพยากรทางการเงิน ทรัพยากรบุคคลด้านเทคโนโลยี เครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยี และค่าธรรมเนียมการใช้งานปัญญาประดิษฐ์รายเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะเริ่มต้น บางองค์การว่าจ้างหน่วยงานภายนอก (Outsourcing) มาดำเนินการซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมาก ดังนั้น ผู้บริหารควรสนับสนุนทรัพยากรด้านต่างๆอย่างเพียงพอ
3) บทบาทในการพัฒนาบุคลากร กล่าวคือ ผู้บริหารควรพัฒนาความรู้และทักษะของบุคลากรเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการวางแผนและการควบคุมได้ เช่น การจัดฝึกอบรมวิธีการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกต้อง มีจริยธรรมแก่บุคลากรในหน่วยงานของตน
4) บทบาทในการเป็นต้นแบบ (Role Model) กล่าวคือ ผู้บริหารควรเป็นต้นแบบในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนและการควบคุมองค์การ เนื่องจากถ้าผู้บริหารนำมาใช้ในองค์การอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่บุคลากรในองค์การจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์กล่าวมาประยุกต์ใช้เช่นเดียวกัน
2. การสร้างความพร้อมด้านบุคลากร
การสร้างความพร้อมด้านบุคลากรมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ในวางแผนและการควบคุมในระยะยาว ดังนั้น องค์การต่างๆควรดำเนินการ ดังนี้
(1) การพัฒนาความรู้และทักษะด้านดิจิทัล (digital literacy) แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากบุคลากรในองค์การมีความรู้และทักษะด้านดิจิทัลจะทำให้สามารถสื่อสารกับหน่วยงานด้านเทคโนโลยีทั้งภายในและภายนอกองค์การได้อย่างถูกต้อง และสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการวางแผนและการควบคุมงานได้ประโยชน์สูงสุดอีกด้วย เช่น การฝึกอบรมความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ใช้งานในเรื่องของการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ในการวางแผนและการควบคุม และวิธีการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศต่างๆในองค์การ เป็นต้น
(2) การสร้างทัศนคติที่ดีต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนและการควบคุมองค์การ โดยชี้แจ้งถึงวัตถุประสงค์และแนวทางการนำมาประยุกต์ใช้ รวมทั้งความสำคัญของการประยุกต์ใช้ต่อผู้ปฏิบัติงาน ผู้บริหาร และองค์การ และควรชี้แจงให้ทุกฝ่ายตระหนักว่า “การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานเทคโนโลยีหรือผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคนในองค์การ”
(3) การเปิดโอกาสให้บุคลากรมีส่วนร่วมในกระบวนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการวางแผนและการควบคุมองค์การ เช่น การสำรวจความคิดเห็นหรือพูดคุยกับบุคลากรเกี่ยวกับความต้องการของบุคลากรเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาใช้ประโยชน์ การให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการออกแบบระบบ เพื่อให้การนำมาใช้สามารถตอบสนองความต้องการของบุคลากรและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการวางแผนและการควบคุมขององค์การได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีและพันธะผูกพัน (Commitment) ต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ในการวางแผนและการควบคุมอีกด้วย
3. การสนับสนุนงบประมาณ
องค์การควรกำหนดงบประมาณและวางแผนการจัดหางบประมาณให้เพียงพอต่อการพัฒนาความรู้และทักษะด้านดิจิทัลแก่บุคลากรในองค์การและการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการวางแผนและการควบคุม
4. การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์การ
การประยุกต์ใช้ควรให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานให้เอื้อต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการวางแผนและการควบคุมองค์การด้วย เช่น การปรับเปลี่ยนจาก “วัฒนธรรรมหวงความรู้” เป็น “วัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ระหว่างกัน” การปรับเปลี่ยนจาก “วัฒนธรรมมุ่งเน้นรายละเอียด” เป็น “วัฒนธรรมการทำงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์” ซึ่งเอื้อต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์มาใช้
กล่าวโดยสรุปได้ว่า เพื่อความสำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ในการวางแผนและการควบคุมในยุคปัญญาประดิษฐ์ องค์การควรให้ความสำคัญกับการสนับสนุนของผู้บริหาร การสร้างความพร้อมด้านบุคลากร การสนับสนุนงบประมาณ และการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์การ