กระแสคลื่นวัฒนธรรมเกาหลี (Korean Wave) ในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมาได้เข้ามามีอิทธิพลต่อสังคมไทยผ่านสื่อมวลชนมากมาย ได้แก่ ละครซีรีส์ เพลงภาพยนตร์ และรายการวาไรตี้ เป็นต้น ทำให้คนในสังคมชื่นชอบดารานักร้องเกาหลีจนไปถึงวัฒนธรรมเกาหลี อาจกล่าวได้ว่า กระแสความนิยมอาหารเกาหลีเริ่มต้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อละครซีรีส์เกาหลีเรื่องแดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง (Dae Jang Geum: Jewel in the Palace) มีการนำเสนอวัฒนธรรมอาหารเกาหลีอย่างมีเสน่ห์ที่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยแห่งหนึ่งนำเข้ามาออกอากาศจนเกิดกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีกลายเป็นละครซีรีส์ที่โด่งดังมาก และเป็นการจุดกระแสความนิยมสินค้าวัฒนธรรมเกาหลีที่เห็นได้ชัดเจน คือวัฒนธรรมอาหารเกาหลีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก มีร้านอาหารเกาหลีเปิดกิจการมากมายเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เป็นแฟนละครเรื่องนี้
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ศึกษาการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศสาธารณรัฐเกาหลีผ่านละครซีรีส์เรื่องแดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง พบว่า คนไทยจำนวนหนึ่งมีความรู้สึกร่วมตามละครซีรีส์เรื่องแดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวงจนเกิดความชื่นชอบในวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีเป็นอย่างมาก ทำให้มีความต้องการจะศึกษาด้านการทำอาหาร ด้านภาษาเกาหลี ด้านการท่องเที่ยว และเกิดความนิยมในการรับประทานอาหารเกาหลีมากขึ้น
ละครซีรีส์เกาหลีเรื่องแดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวงเป็นละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำอาหารที่แสดงให้เห็นฝีมือการทำอาหารของนางเอกในราชสำนัก ซึ่งในอาหารแต่ละเมนูที่นางเอกทำนั้นละครซีรีส์จะนำเสนอชุดความรู้เกี่ยวกับอาหารเกาหลี ตั้งแต่การผลิตเครื่องปรุง การคัดสรรวัตถุดิบ วิธีการทำอาหาร ภาชนะสำหรับใส่อาหารแต่ละประเภท ตลอดจนวิธีการเสิร์ฟอาหารแต่ละชนิด เรื่องราวและที่มาของอาหารแต่ละจาน และความคิดสร้างสรรค์ในการคิดเมนูอาหารใหม่ๆ ที่คำนึงถึงประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการให้เหมาะสมกับผู้ที่รับประทาน เช่น การใช้ผักกาดแทนแป้งหมี่เพื่อทำหมั่นโถวเนื่องจากแป้งหมี่ของแดจังกึมถูกขโมยไป แต่กลับทำให้หมั่นโถวมีรูปลักษณ์ที่ต่างไปจากเดิม แปลกใหม่และมีรสชาติอร่อย การใช้น้ำแร่ธรรมชาติทำน้ำแกงให้ได้รสอร่อยในสถานการณ์ที่ต้องอยู่ในป่า เนื่องจากในป่าไม่มีวัตถุดิบให้เลือกสรรมากนักเหมือนตอนอยู่ในวัง แต่แดจังกึมยังได้คิดค้นการทำน้ำแกงให้มีรสอร่อยจากวัตถุดิบในป่า หรือแม้แต่เมนูข้าวอบไม้ไผ่ที่ใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นภาชนะในการอบข้าวน้ำจากไผ่และผิวไม้ไผ่ก็จะซึมไปรวมกับเมล็ดข้าวทำให้ข้าวมีรสหอมหวาน หรือการที่แดจังกึมค้นพบว่าละอองเกสรของต้นไม้จะทำให้เครื่องปรุงที่หมักอยู่ใต้ต้นไม้มีรสชาติที่ดี และการใช้หม้อร้อนเสริฟอาหารแทนชามเพื่อให้อาหารมีความร้อนตลอดเวลาและเพื่อให้ผู้กินได้รับประทานอาหารที่มีความร้อนอยู่เสมอ รวมถึงการค้นพบว่า ถ่านสามารถใช้เพื่อดับกลิ่นชื้นของข้าวและกลิ่นหืนของเครื่องปรุงได้ ละครซีรีส์เกาหลีเรื่องแดจังกึมเป็นละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีได้มีการพิมพ์ตำราอาหารเกาหลีชื่อว่า “Wonderful World of Korean Food” หรือโลกมหัศจรรย์อาหารเกาหลีและแจกฟรีให้ผู้สนใจ ซึ่งเนื้อหาในหนังสือประกอบด้วยความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเกาหลี เครื่องปรุง ตลอดจนประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ และสอดแทรกตำราการปรุงอาหารเกาหลีทั้งอาหารโบราณและอาหารในราชสำนัก แดจังกึมจึงเป็นละครซีรีส์เกาหลีที่ทำให้วัฒนธรรมเกาหลีกลายเป็นสินค้า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า แดจังกึมกลายเป็นสินค้า “สร้างชาติ” ให้กับประเทศเกาหลี อีกทั้งยังทำให้วัฒนธรรมเกาหลีเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้กระแสวัฒนธรรมร่วมสมัยของเกาหลี เช่น กระแสจากนักร้อง K-Pop เพลงเกาหลี ดารานักแสดง แฟชั่น สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ เป็นที่รู้จักตามมา โดยผลกระทบต่างๆ เหล่านี้ล้วนเกิดจากอิทธิพลความนิยมจากละครซีรีส์แดจังกึม ซึ่งความนิยมจากแดจังกึมนั้นทำให้เกิดความนิยมทั้งในประเทศเกาหลีและในต่างประเทศ โดยละครซีรีส์แดจังกึมได้รับความนิยมมากเป็นอันดับหนึ่งตลอดระยะเวลาที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง MBC ของเกาหลีใต้ และในปี พ.ศ. 2548 ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างมาซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปออกอากาศภายในประเทศตัวเอง อาทิ ยุโรป อเมริกา จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ไต้หวัน ฮ่องกง อินโดนีเซีย และไทย โดยสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจากค่าลิขสิทธิ์ได้ถึง 5 พันล้านวอน
ที่มา วิสาขา เทียมลม. (2565). อาหารเกาหลีทำให้เราเพลิดเพลิน : อุตสาหกรรมวัฒนธรรมในซีรีส์เกาหลี. สืบค้นจาก http://202.41.160.104/index.php/MPA/article/view/287