แรงกดดันที่ผลักดันความยั่งยืน: ผู้บริโภค นักลงทุน และกฎระเบียบ
ในโลกธุรกิจยุคใหม่ คำว่า “ความยั่งยืน” ไม่ได้เป็นเพียงคำสวยหรูที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์อีกต่อไป แต่คือแรงกดดันที่ทรงพลังจากหลายทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค นักลงทุน หรือกฎระเบียบของภาครัฐ ซึ่งต่างมีส่วนกำหนดอนาคตของโซ่อุปทานอาหารไทยอย่างชัดเจน ผู้บริโภคยุคนี้มักไม่หยุดที่การตัดสินใจซื้อจากรสชาติหรือราคาเท่านั้น หากแต่สนใจเรื่องราวเบื้องหลังการผลิต พวกเขาอยากรู้ว่าข้าวที่กินปลูกด้วยวิธีที่ปลอดภัยต่อดินและน้ำหรือไม่ กาแฟที่ดื่มมีการค้าขายแบบแฟร์เทรดจริงหรือเปล่า และแรงงานที่ทำงานในโรงงานได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่เป็นธรรมหรือไม่ ความคาดหวังเหล่านี้กดดันให้บริษัทต้องหันมามองโซ่อุปทานในภาพกว้าง ไม่ใช่แค่สิ่งที่เกิดขึ้นในโรงงานของตนเอง แต่รวมถึงทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สิ่งที่ทำให้แรงกดดันนี้รุนแรงขึ้นคือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในยุคอินเทอร์เน็ต โลกที่เคยกว้างใหญ่กลับแคบลงเพราะข้อมูลข่าวสารถูกส่งต่อกันได้ภายในเสี้ยววินาที เมื่อผู้บริโภคในยุโรปพบว่าผู้ผลิตรายใดละเมิดสิทธิแรงงาน ข่าวนั้นสามารถแพร่ไปถึงผู้บริโภคไทยหรืออเมริกาได้แทบจะทันที การรีวิวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ การแชร์เรื่องราวบนโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่แคมเปญรณรงค์เล็ก ๆ บนทวิตเตอร์ ก็อาจกลายเป็นพลังมหาศาลที่สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง พฤติกรรมการบริโภคที่เคยพึ่งพาการบอกปากต่อปากในวงแคบ กลายเป็น “ปากต่อปากดิจิทัล”…