N Chaisaard
แนวทางการบริหารโครงการก่อสร้างในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมา เป็นการรวมหลักการบริหารโครงการภายใต้เงื่อนไขตามสัญญาและการนำเทคนิคสำหรับมาตรการโดยละเอียดในการป้องกันไวรัส COVID-19 มาใช้ สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนพฤษภาคม 2563 และต่อเนื่องยาวนานมาจนปัจจุบันที่มีการกลายพันธุ์ของไวรัส โดยสรุปในช่วงระยะเวลาดังกล่าวที่เหตุการณ์มีความรุนแรง กล่าวได้ว่าทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการก่อสร้างได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในกระบวนการก่อสร้างคือ แบ่งการดำเนินงานออกเป็นสามขั้นตอน:
1.ก่อนการก่อสร้าง
2.การก่อสร้าง
และ3. หลังการก่อสร้าง โครงการก่อสร้างยากลำบากมากขึ้นยิ่งขึ้นด้วยวิกฤตดังกล่าวนี้ ดังนั้นทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมการก่อสร้างจำเป็นต้องทำการปรับเปลี่ยนอย่างมากเพื่อเร่งงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของแต่ละฝ่ายที่เป็น Stakeholders ที่เกี่ยวข้องในงานก่อสร้าง ในขณะที่ยังคงรักษาหลักการสำคัญของการจัดการโครงการและการทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้
โดยจากการศึกษา ผ่านกรณีศึกษาโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย เผยให้เห็นแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับแนวทางของ FIDIC โดยเฉพาะเกี่ยวกับสภาพการทำงานนอกสถานที่ ในหน่วยงานก่อสร้าง ความเสี่ยงในองค์กรของทีมงานโครงการ และมาตรการตอบโต้ทั้งในระหว่างและหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 การแพร่กระจายของโรคระบาดแสดงถึงสถานการณ์เหตุสุดวิสัยตาม Hansen [8] FIDIC [32] ได้แนะนำปัจจัยที่อยู่ เช่น การสูญเสียช่องทางการสื่อสาร การส่งมอบเกินกำหนดเวลาหรือรวมงานที่ไม่จำเป็น (inclusion of non-essential tasks) ปัญหาเกี่ยวกับ PPE (Personal protective equipment) และ/หรืออุปกรณ์เฉพาะ เช่น ถุงมือ อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและหน้ากาก นอกเหนือไปจากการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำงานประจำในหน่วยงานก่อสร้าง การทดสอบสุขภาพสำหรับผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งการวัดอุณหภูมิตามปกติ การตรวจสอบการสัมผัสกับบุคคลที่ปนเปื้อนหรือต้องสงสัย การชักนำสถานที่และการระบุอันตราย สุขอนามัย/อุปกรณ์ส่วนบุคคล และกิจวัตรการทำความสะอาดที่เพิ่มขึ้น โครงการก่อสร้างของรัฐบาลดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการจัดการสินค้าคงคลังของรัฐบาล พ.ศ. 2560 และการดำเนินการก่อสร้างต้องสอดคล้องกับคำสั่งของ CCSA ของประเทศไทยอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างบางโครงการ ไม่สามารถดำเนินการตามแนวทาง FIDIC (สัญญามาตรฐานสากล The International Federation of Consulting Engineers) ได้อย่างเต็มที่ [32] สำหรับในประเทศไทย การดำเนินโครงการไม่สามารถกำหนดแผนการรับคนขั้นต่ำได้อย่างสมบูรณ์ (fully defined minimum staffing plans) และดำเนินการตามแนวทางการทำงานระยะไกล (implemented remote working) รวมถึงการตรวจสอบอุปกรณ์ PPE อย่างเข้มข้น กล่าวได้ว่าโครงการก่อสร้างในอนาคตจำเป็นต้องปฏิบัติตามแผนที่ชัดเจนและรัดกุม ทำให้โครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคสามารถทำงานต่อไปได้ภายใต้เงื่อนไขเหตุสุดวิสัย (force majeure conditions).
และจากการศึกษาของ Ubaidillah & Riyanto [15] เกี่ยวกับระยะห่างทางสังคมในบริบทของอุตสาหกรรมการก่อสร้าง การทำงานจากที่บ้านตาม FIDIC [32] ไม่สามารถบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากเท่ากับภายในวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรเช่นบริษัทก่อสร้าง มีความจำเป็นในการโต้ตอบกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทางด้านกายภาพและทำงานเป็นกลุ่มในไซต์งานก่อสร้าง และกล่าวได้อีกว่าประสบการณ์การระบาดของCOVID-19 นั้นสอดคล้องกับการศึกษาของ Menassa [31] ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนเกี่ยวข้องกับอิทธิพลเชิงลบของความเสี่ยงที่มีอยู่ต่อมูลค่าของต้นทุนวงจรชีวิต (negative influence of the existing risk on the value of life cycle costs) และการลงทุนในโครงการ จากข้อมูลที่รวบรวมผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้บริหารและผู้ดำเนินโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน จะพบความแตกต่างและข้อจำกัดในแต่ละโครงการก่อสร้าง เนื่องจาก COVID-19 ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ที่มีความสามารถในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั่วโลกทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต การระบาดใหญ่นี้ทำให้ต้องมีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินในวงกว้างสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ซึ่งทำให้ทรัพยากรของโรงพยาบาลต้องตึงเครียดอย่างมหาศาล (infected patients putting an enormous strain on hospital resources) การสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาลได้เกิดขึ้นกับทุกประเทศรวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันและตอบโต้วิกฤตการณ์ในประเทศไทยยังขาด SOP (standard operating procedure) ข้างต้นซึ่งอาจเป็นรายการตรวจสอบที่ครอบคลุมในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและโครงการควรให้ความสำคัญกับความเสี่ยงในการดำเนินโครงการมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย วิธีการป้องกัน และมาตรการตอบโต้ที่ระบุไว้ในการศึกษานี้ โครงการก่อสร้างขนาดเล็กหรือขนาดกลางในประเทศไทยหรือประเทศในกลุ่มอาเซียนสามารถปรับเปลี่ยนมาตรการตอบสนองสำหรับโครงการก่อสร้างบางโครงการเพื่อตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ที่คล้ายคลึงกันในอนาคตอันใกล้
ประมวลและข้อสรุปจากต้นฉบับ
Chaisaard, N., Ngowtanasuwan, G., & Doungpan, S. (2020) A Review of Construction Project Management Guidelines under the Impact of COVID-19 Epidemic Dispersal: A Case Study of Thai Construction Projects, SUT International Virtual Conference on Science and Technology, Nakhon-Ratchasima, Thailand (Vol.28).